
ลำบากกันมาสองคน เวลาสบายอย่าพาคนอื่นเข้ามา
ช่วงเตรียมตัวที่จะแต่งงานกันของคู่รักคู่นึง…
ฝ่ายชายมีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น ผู้หญิงมีเงินหนึ่งแสน
ก่อนที่จะแต่งงาน ผู้ชายนำเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นไปดาวน์บ้าน
ผู้หญิงนำเงินหนึ่งแสนไปตกแต่งบ้าน และ ซื้อเครื่องใช้ต่างๆ
เมื่อเริ่มตกลงปลงใจแต่งงานกัน ทั้งคู่ตกลงกันไว้ว่า…
ผู้ชายใชเงินเดือนผ่อนบ้าน ผู้หญิงใช้เงินเดือนจ่ายค่าอยู่ค่ากิน
หลังแต่งงาน… ผู้ชายผ่อนส่งค่างวดบ้านทุกเดือน ชายหญิงทั้งสองใช้ร่วมกัน
สามปีต่อมาผู้หญิงตั้งครรค์ จากนั้นคลอดลูกออกมา…
ผู้ชายได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน เงินเดือนเพิ่มขึ้น
รายได้มากพอที่จะทำงานคนเดียวแล้วเลี้ยงดูครอบครัวได้
ยามนี้ลูกต้องการคนดูแล ชายและหญิงทั้งสอง ปรึกษาหารือกัน
ตกลงตัดสินใจให้ผู้หญิงลาออกจากงานเพื่ออยู่ดูแลลูก
เช่นนี้แล้ว… ผู้หญิงจึงกลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว
ด้วยความที่เป็นแม่บ้านที่ขยันขันแข็ง และ ทำหน้าที่ศรีภรรยาได้ดี
ทำให้เป็นช้างเท้าหลังที่สนับสนุนช้างท้าวหน้าให้เดินได้อย่างเต็มกำลัง
ทำให้สิบปีต่อมา ผู้ชายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างมากรัศมีเปล่งปลั่ง
ผู้หญิงคลุกคลีอยู่กับลูก สามี บ้าน ทุกๆวัน ราศีหม่นหมอง
ยามนี้… ผู้ชายรู้สึกว่า ภรรยาตนไม่สามารถพาเข้าสังคมอีกแล้ว
สิ่งยั่วยวนภายนอกก็ช่าง ร้ อ น แ ร ง เ ย้ า ย ว น ใ จ สุดท้ายเลยมีภรรยาน้อย
หลังจากภรรยารู้เรื่องเข้า… ก็รู้สึกเศร้าเสียใจมาก ฝ่ายหญิงเตรียมตัวหย่า
ตามคำอธิบายในตัวบทกฎหมาย ว่าด้วยการสมรส “บ้าน” ผู้ชายได้ซื้อก่อนแต่งงาน
ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ผู้หญิงไม่ยอม บอกว่า… “พวกเราทั้งสองช่วยกันผ่อนค่างวด”
ทนายถามว่า… “เธอมีหลักฐานที่ร่วมกันผ่อนส่งค่างวดหรือไม่…?”
ผู้หญิงตอบว่า… “ไม่มี ทุกเดือนจะหักจากบัญชีเงินเดือนของผู้ชายโดยตรง”
ผู้หญิงบอกอีกว่า… “ลูกฉันเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มากับมือ ลูกต้องอยู่กับฉัน”
ทนายพูดว่า… “ลูกจะอยู่กับใคร เราจะดูว่าใครมีความสามารถที่จะเลี้ยงดูได้มากที่สุด เธอ..ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ไม่มีบ้าน ย่อมไม่เป็นผลดีต่อลูก ทางศาลจะตัดสินให้ลูกอยู่กับฝ่ายชาย ”
ตอนนี้ผู้หญิง..ไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีลูก เธอสิ้นหวังแล้ว
เหมือนโลกทั้งใบของเธอสลายไปแล้ว
ส่วนผู้ชาย… เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขากับคนรักใหม่อย่างสวยงาม
ผู้หญิง… เธอยังกล้าที่จะนำเอาความสุขของทั้งชีวิต ฝากฝังไว้กับคนอื่นอีกหรือไม่…?
บนโลกใบนี้ไม่มีใครให้คุณพึ่งพิงได้ตลอดชีวิต
แม้แต่เงาของเธอเองก็จะห่างหายไปจากเธอในวันที่ไม่มีแสงสว่าง
ใช่แล้ว… แรกเริ่มผู้ชายรักเธอมาก แต่ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้วมักจะละเลยสิ่งสำคัญที่สุดไป
นั่นก็คือ “คน” ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ล้วนที่จะแปรเปลี่ยนไปได้ทุกเมื่อทุกเวลา
ผู้หญิงที่มีอาชีพ การงาน สามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงสามารถสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตคู่
ใครจะยอมทนอยู่กับคนที่ ไม่แต่งหน้าแต่งตัว ไม่พัฒนาตนเอง อีกทั้งสวยน้อยลงทุกวัน
ผู้หญิงเอ๋ย… อย่าฝากความหวังไว้กับใครมาก ดีกับตัวเองทะนุถนอมตัวเองให้มากหน่อยเถิด
รูปลักษณ์ของผู้หญิงเองเป็นตัวตัดสินกำหนดว่า “สำเร็จหรือล้มเหลว”
Cr. ขอบคุณเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยแง่คิดดีๆจาก : Niwat Rungvicha

